บาคาร่าออนไลน์ เพื่อไทยเสนอเลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ส.ค. ไม่วางใจโควิด-19

บาคาร่าออนไลน์ เพื่อไทยเสนอเลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ส.ค. ไม่วางใจโควิด-19

วันที่ 23 เม.ย. นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี บาคาร่าออนไลน์ พรรคเพื่อไทย เผยว่า จากการลงพื้นที่พบประชาชนในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์ และป้องกันสุขภาพอนามัยประชาชนทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ประชาชนตอบรับดีมาก และต้องการให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านไปเร็ววัน เพื่อต้องการกลับมาทำมาหากินสร้างรายได้ให้ครอบครัว

ทางด้านประชาชนโดยเฉพาะผู้ปกครองได้ฝากข้อร้องเรียนไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

ผ่านไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ว่า จากเดิมที่กระทรวงศึกษาธิการ กำหนดให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2563 ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ยังไม่มีความพร้อมและกังวลว่า การระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่ดีขึ้นมากนัก จะกระทบกับสุขภาพของเด็กนักเรียน

นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า หลายฝ่ายเกรงว่า เมื่อเปิดภาคเรียนแล้วการกระจายของเชื้อไวรัสจะเพิ่มมากขึ้น เพราะมีนักเรียนเป็นจำนวนมาก ตามสถานศึกษาต่างๆ ดังนั้น จึงอยากให้กระทรวงศึกษาพิจารณาในการเลื่อนการเปิดการเรียนออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ได้หรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ จะปลอดภัย หากเปิดเรียนในเดือนสิงหาคม จะให้เรียนทุกวันก็ได้ ทางผู้ปกครองไม่ขัด เพื่อให้เด็กจะได้เรียนได้ตามหลักสูตรได้ครบถ้วน

ส่วนกรณีการเรียนออนไลน์นั้นคงจะลำบากเพราะหลายครอบครัวไม่มีความพร้อม ไม่มีคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา รวมทั้งระบบอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยยังไม่รองรับการเรียนออนไลน์ ดังนั้นเมื่อรัฐไม่มีความพร้อมก็ไม่ควรเปิดให้เรียนออนไลน์ จะให้เรียนผ่านมือถือคงยากสำหรับเด็กบางช่วงอายุ เพราะธรรมชาติเยาวชนจะไม่อยู่นิ่ง ดังนั้นนโยบายเรียนออนไลน์ยังไม่ตอบโจทย์สังคมไทย

สำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ถูกเลิกจ้างงานหรือโดนพักงาน 14 วัน ได้สั่งให้ สศค.ดูว่าจะใช้มาตรการมดบ้างช่วยเหลือกลุ่มนี้อย่างไร ปัจจุบันธนาคารออมสินได้ออกสินเชื่อบัตรเงินสด GSB Refinance ให้ผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจากสถาบันการเงินต่างๆ มายังธนาคารออมสิน เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งถือเป็นการช่วยประชาชนลดค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง

สรุปวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 33 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาล 19 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 53 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานการณ์การระบาดของโลก ขณะมีการติดเชื้อใน 108 ประเทศ 2 เขตการปกครองพิเศษ และ 1 เรือสำราญ สถานการณ์ผู้ป่วยของประเทศอยู่ในอันดับที่ 32 ของโลก

ส่วนแรงงานไทยนอกระบบจากเกาหลีใต้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ มีทั้งหมด 188 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 100 คน (มาจากเมืองแทกูและคย็องซังเหนือ 8 คน) มีกลุ่มดูแลพิเศษ 20 คน เป็นหญิงตั้งครรภ์ 5 คน เด็กเล็ก 4 คน มีโรคประจำตัว 11 คน ผลการคัดกรองไม่พบผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ทั้งหมดไม่มีไข้

ศรีสุวรรณ เผย กฟผ. ซื้อรถเข็นผักคันละ 150,000 บาท

วันที่ 23 เมษายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า  ทางกฟผ.ได้ซื้อรถเข็นผักคันละ 150,000 บาท ซึ่งมีราคาแพงกว่าปกติ 100 เท่า จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าแพง

ศรีสุวรรณเผยว่า ตามที่ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาเปิดเผยและร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาค่าไฟฟ้าแพงมากในรอบบิลที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นประเด็นปัญหาซ้ำเติมประชาชน ในช่วงที่รัฐบาลรณรงค์ขอร้องให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนกระทั่ง รมว.พลังงาน กฟผ. สนพ.และ กกพ.ต้องรีบออกมาแก้ปัญหาด้วยการเสนอมาตรการเพิ่มเติมในการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา

การออกมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนเพียง 3 เดือนเป็นเพียงการแก้ผ้าเอาหน้ารอดในเหตุเฉพาะหน้าของกระทรวงพลังงานและรัฐบาลเท่านั้น แต่ไม่เคยกลับไปทบทวนว่าต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดราคาค่าไฟฟ้าราคาแพงนั้นอยู่ที่ไหน และอย่างไร ล่าสุดสมาคมฯ ได้ตรวจสอบพบว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในสำนักงานและสถานีบริการไฟฟ้าต่างๆ ทั่วประเทศมีความผิดปกติหลายประการ จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดหาโดยองค์กรที่ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสมาอย่างต่อเนื่องจาก ป.ป.ช. อาทิเช่น การจัดซื้อรถเข็น (ลักษณะเดียวกับรถเข็นผักทั่วไป) เพื่อใช้ในแผนงานโครงการ Supply and Construction of 500/230 kv(GIS) ซึ่งมีราคาต่อ 1 คัน คือ 152,956.21 บาท ซึ่งหากไปหาซื้อแถวย่านวรจักร หรือย่านรังสิต ก็ไม่น่าจะเกินคันละ 1-2,000 บาทเท่านั้น

ปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์ของ กฟผ.ไม่มีการตรวจสอบกันอย่างจริงจัง ปล่อยให้รัฐวิสาหกิจดังกล่าวบริหารจัดการเงินแผ่นดิน และนำมาหล่อเลี้ยงพนักงานเจ้าหน้าที่ถึง 22,413 คน เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมดดังกล่าวจะถูกนำมาคิดเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการไฟฟ้า และผลักภาระทั้งหมดมาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนผ่านค่า FT ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ สตง.จะต้องตรวจสอบองค์กรการไฟฟ้าดังกล่าวอย่างจริงจังและรวดเร็ว ตั้งแต่ฝ่ายจัดซื้อเรื่อยไปจนถึงผู้ว่าการฯ ว่ามีส่วนรับรู้ในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะแต่ละแผนงานโครงการฯ มีการตั้งงบจัดซื้อนับพันล้านบาท อาทิสัญญาเลขที่ W100321-222M-SPPC-S-02 มีมูลค่าถึง 1,130,698,504.73 บาท เพื่อที่จะได้นำมาลงโทษและกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดต่อไป 

ในส่วนเรื่องเจลแอลกอฮอล์ล้างมือถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกหนึ่งในการทำความสะอาดมือเพื่อสุขลักษณะที่ดีในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเครื่องสำอางมีความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70% โดยปริมาตร บาคาร่าออนไลน์